
ในการจัดการคลังสินค้าหรือพื้นที่จัดเก็บในโรงงาน “ระบบชั้นวางสินค้า” (Rack) ไม่ได้เป็นเพียงตัวช่วยจัดเรียงของให้เป็นระเบียบ แต่เป็นหัวใจสำคัญของการบริหารพื้นที่ การควบคุมต้นทุน และการทำงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การเลือกชั้นวางของโรงงานที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้เสียพื้นที่ใช้งาน การปฏิบัติงานซับซ้อนกว่าที่ควรจะเป็น ต้องเพิ่มขั้นตอนการทำงานโดยไม่จำเป็น หรือที่ร้ายแรงที่สุด คือ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าและความปลอดภัยของพนักงาน
วันนี้ TTC ขอนำเสนอเช็คลิสต์และแนวทางที่ควรทราบ เพื่อช่วยในการวางแผนและเลือกระบบชั้นวางของโรงงานได้อย่างเหมาะสมกันค่ะ
เริ่มต้นจากการทำความรู้จัก “สินค้า” ของคุณ
ก่อนที่จะเลือกประเภทของชั้นวาง สิ่งแรกที่จำเป็นต้องประเมินคือคุณสมบัติและลักษณะของสินค้าที่จะจัดเก็บ โดยมีปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา ได้แก่:
- ขนาดและน้ำหนักสินค้าเฉลี่ยต่อชิ้น / ต่อพาเลท – เป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการคำนวณกำลังรับน้ำหนักและขนาดของชั้นวาง
- ปริมาณสินค้าโดยประมาณที่ต้องการเก็บ – เพื่อกำหนดจำนวนและขนาดของระบบชั้นวางที่เหมาะสม
- ขนาดพื้นที่คลังสินค้า – ทั้งความกว้าง ยาว และความสูงของพื้นที่ที่มีอยู่
- การใช้รถยกหรืออุปกรณ์ขนถ่าย – ประเภทและขนาดของอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนย้ายสินค้า
- ความต้องการระบบ FIFO หรือ LIFO – วิธีการหมุนเวียนสินค้าตามลักษณะการใช้งาน
- งบประมาณโดยประมาณ – เพื่อเลือกทางเลือกที่เหมาะสมกับเงินลงทุนที่มี
ตัวอย่างการประเมิน: หากสินค้าเป็นชิ้นเล็กจำนวนมากและมีการหยิบใช้บ่อย ระบบ Micro Racking หรือ Carton Flow จะสามารถตอบสนองความต้องการได้ดี ในทางตรงกันข้าม หากสินค้าอยู่บนพาเลท มีขนาดที่เป็นมาตรฐานเดียวกันจำนวนมาก และต้องการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุดในพื้นที่จำกัด ระบบ Drive-in Racking จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า |
ความสำคัญของขีดจำกัดน้ำหนักในการเลือกชั้นวาง
น้ำหนักของสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ในการเลือกชั้นวางของโรงงาน เนื่องจากโครงสร้างของชั้นวางจะต้องมีความแข็งแรงเพียงพอในการรับน้ำหนักของสินค้าได้อย่างปลอดภัย
ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้งานจริงคือ การประมาณน้ำหนักไม่เพียงพอ หรือการวางสินค้าเกินกำหนดโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะกับชั้นวางที่มีหลายระดับ น้ำหนักที่สะสมจากชั้นบนลงมาจะเพิ่มแรงกดทับให้กับโครงสร้างด้านล่างเป็นหลายเท่า ซึ่งอาจทำให้เกิดการยุบตัว การเอียง หรือแม้กระทั่งการพังถล่มได้
กรณีตัวอย่าง : โรงงานแห่งหนึ่งต้องเก็บสินค้าหนัก 1,200 กก./พาเลท บนชั้นวาง 4 ระดับ ถ้าใช้ Medium Racking ซึ่งรับได้เพียง 500 กก./ชั้น อาจทำให้ชั้นรับน้ำหนักไม่ไหวแม้สินค้าจะพอดีในพื้นที่ เลยขอแนะนำเป็น Selective Racking ที่ออกแบบมาให้รองรับได้ถึง 2,000 กก./พาเลท ก็จะช่วยให้ปลอดภัย และยังสามารถวางพาเลทซ้อนระดับได้อย่างมั่นใจ |
การเลือกระบบการหมุนเวียนสินค้า: FIFO หรือ LIFO แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ
การออกแบบระบบชั้นวางไม่ได้มีแค่เรื่องของโครงสร้างเท่านั้น แต่ยังต้องสอดคล้องกับวิธีการจัดการคลังสินค้าด้วย โดยเฉพาะการหมุนเวียนสินค้า ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการเลือกประเภทของชั้นวาง
- ธุรกิจที่ต้องการระบบ FIFO (First In, First Out) ซึ่งต้องหยิบสินค้าที่เข้ามาก่อนออกไปก่อน ระบบ Pallet Flow Racking จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะสินค้าจะไหลตามแรงโน้มถ่วงจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ทำให้เหมาะกับสินค้าที่หมุนเร็ว มีวันหมดอายุ หรือต้องการความสดใหม่
- หากธุรกิจใช้ระบบ LIFO (Last In, First Out) ที่หยิบสินค้าที่เข้ามาทีหลังออกไปก่อน ระบบ Drive-in หรือ Push Back Racking จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะเหมาะกับการจัดเก็บสินค้าประเภทเดียวกันจำนวนมาก โดยไม่จำเป็นต้องแยกหยิบทีละชิ้น
ความยืดหยุ่นในการขยายหรือเคลื่อนย้ายในอนาคต
หลายโรงงานอาจมีแผนขยายพื้นที่หรือปรับเปลี่ยนผังในอนาคต ดังนั้นการเลือกชั้นวางที่มีโครงสร้างแบบ knock-down หรือสามารถถอดประกอบ ย้ายจุดติดตั้ง หรือเพิ่มระดับได้ จะช่วยให้ปรับเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด เช่น
- Selective Racking / Medium Racking / Micro Racking มักมีระบบปรับระดับและขยายได้ง่าย
- Mezzanine Floor แม้จะรองรับน้ำหนักมาก แต่การเคลื่อนย้ายซับซ้อน จึงควรใช้กับพื้นที่ที่ไม่เปลี่ยนบ่อย
ความปลอดภัยและความมั่นใจในระยะยาว

เนื่องจากชั้นวางสินค้าอุตสาหกรรมเป็นโครงสร้างถาวรที่ใช้งานในคลังสินค้า ความปลอดภัยจึงต้องเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โครงสร้างควรผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มีใบรับรองคุณภาพ และสามารถตรวจสอบสภาพได้ในภายหลังการติดตั้ง
นอกจากนี้ การเลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ในการออกแบบ ติดตั้ง และให้บริการบำรุงรักษาระบบในระยะยาวก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยตลอดการใช้งานที่ TTC Logistics เราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบจัดเก็บ โดยให้บริการครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบเฉพาะพื้นที่ การติดตั้งโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาง และการรับประกันโครงสร้างนานถึง 5 ปี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ทั้งในด้านความปลอดภัยและการดูแลหลังการขาย สนใจชั้นวางสินค้าอุตสาหกรรม คุณภาพดีเยี่ยม ตามมาตรฐานโรงงานผลิต สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02-998-7091-2