ในการจัดการคลังสินค้าหรือพื้นที่จัดเก็บในโรงงาน “ระบบชั้นวางสินค้า” (Rack) ไม่ได้เป็นเพียงตัวช่วยจัดเรียงของให้เป็นระเบียบ แต่เป็นหัวใจสำคัญของการบริหารพื้นที่ การควบคุมต้นทุน และการทำงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การเลือกชั้นวางของโรงงานที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลให้เสียพื้นที่ใช้งาน การปฏิบัติงานซับซ้อนกว่าที่ควรจะเป็น ต้องเพิ่มขั้นตอนการทำงานโดยไม่จำเป็น หรือที่ร้ายแรงที่สุด คือ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าและความปลอดภัยของพนักงาน

วันนี้ TTC ขอนำเสนอเช็คลิสต์และแนวทางที่ควรทราบ เพื่อช่วยในการวางแผนและเลือกระบบชั้นวางของโรงงานได้อย่างเหมาะสมกันค่ะ 

เริ่มต้นจากการทำความรู้จัก “สินค้า” ของคุณ

ก่อนที่จะเลือกประเภทของชั้นวาง สิ่งแรกที่จำเป็นต้องประเมินคือคุณสมบัติและลักษณะของสินค้าที่จะจัดเก็บ โดยมีปัจจัยหลักที่ต้องพิจารณา ได้แก่:

ตัวอย่างการประเมิน: หากสินค้าเป็นชิ้นเล็กจำนวนมากและมีการหยิบใช้บ่อย ระบบ Micro Racking หรือ Carton Flow จะสามารถตอบสนองความต้องการได้ดี ในทางตรงกันข้าม หากสินค้าอยู่บนพาเลท มีขนาดที่เป็นมาตรฐานเดียวกันจำนวนมาก และต้องการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุดในพื้นที่จำกัด ระบบ Drive-in Racking จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

ความสำคัญของขีดจำกัดน้ำหนักในการเลือกชั้นวาง

น้ำหนักของสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ ในการเลือกชั้นวางของโรงงาน เนื่องจากโครงสร้างของชั้นวางจะต้องมีความแข็งแรงเพียงพอในการรับน้ำหนักของสินค้าได้อย่างปลอดภัย

ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้งานจริงคือ การประมาณน้ำหนักไม่เพียงพอ หรือการวางสินค้าเกินกำหนดโดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะกับชั้นวางที่มีหลายระดับ น้ำหนักที่สะสมจากชั้นบนลงมาจะเพิ่มแรงกดทับให้กับโครงสร้างด้านล่างเป็นหลายเท่า ซึ่งอาจทำให้เกิดการยุบตัว การเอียง หรือแม้กระทั่งการพังถล่มได้

กรณีตัวอย่าง :
โรงงานแห่งหนึ่งต้องเก็บสินค้าหนัก 1,200 กก./พาเลท บนชั้นวาง 4 ระดับ ถ้าใช้ Medium Racking ซึ่งรับได้เพียง 500 กก./ชั้น อาจทำให้ชั้นรับน้ำหนักไม่ไหวแม้สินค้าจะพอดีในพื้นที่

เลยขอแนะนำเป็น Selective Racking ที่ออกแบบมาให้รองรับได้ถึง 2,000 กก./พาเลท ก็จะช่วยให้ปลอดภัย และยังสามารถวางพาเลทซ้อนระดับได้อย่างมั่นใจ

การเลือกระบบการหมุนเวียนสินค้า: FIFO หรือ LIFO แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ

การออกแบบระบบชั้นวางไม่ได้มีแค่เรื่องของโครงสร้างเท่านั้น แต่ยังต้องสอดคล้องกับวิธีการจัดการคลังสินค้าด้วย โดยเฉพาะการหมุนเวียนสินค้า ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการเลือกประเภทของชั้นวาง

ความยืดหยุ่นในการขยายหรือเคลื่อนย้ายในอนาคต

หลายโรงงานอาจมีแผนขยายพื้นที่หรือปรับเปลี่ยนผังในอนาคต ดังนั้นการเลือกชั้นวางที่มีโครงสร้างแบบ knock-down หรือสามารถถอดประกอบ ย้ายจุดติดตั้ง หรือเพิ่มระดับได้ จะช่วยให้ปรับเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องลงทุนใหม่ทั้งหมด เช่น

ความปลอดภัยและความมั่นใจในระยะยาว

เนื่องจากชั้นวางสินค้าอุตสาหกรรมเป็นโครงสร้างถาวรที่ใช้งานในคลังสินค้า ความปลอดภัยจึงต้องเป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โครงสร้างควรผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง มีใบรับรองคุณภาพ และสามารถตรวจสอบสภาพได้ในภายหลังการติดตั้ง

นอกจากนี้ การเลือกผู้ให้บริการที่มีประสบการณ์ในการออกแบบ ติดตั้ง และให้บริการบำรุงรักษาระบบในระยะยาวก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยตลอดการใช้งานที่ TTC Logistics เราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบจัดเก็บ โดยให้บริการครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษา การออกแบบเฉพาะพื้นที่ การติดตั้งโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาง และการรับประกันโครงสร้างนานถึง 5 ปี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ทั้งในด้านความปลอดภัยและการดูแลหลังการขาย สนใจชั้นวางสินค้าอุตสาหกรรม คุณภาพดีเยี่ยม ตามมาตรฐานโรงงานผลิต สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02-998-7091-2